วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สอนคนให้เป็นคน ก่อนที่จะสอนคนให้เป็นศิลปินหรือจิตรกร

สอนคนให้เป็นคน ก่อนที่จะสอนคนให้เป็นศิลปินหรือจิตรกร
…ศิลปะเด็กเป็นสื่อที่ดีในการพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของเด็ก 
ไม่ใช่การเตรียมคนให้เป็นศิลปินหรือจิตรกรในอนาคต…               

         ศิลปะในโลกของเด็กๆ นั้นคือ การแสดงออกอย่างอิสระเสรี (Free Expression) อันเต็มไปด้วยความ
ซื่อบริสุทธิ์จริงใจ เปิดเผยและเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาประสาของเด็ก โดยปราศจากการเสแสร้ง ดัดจริตและ
ไร้มารยาสาไถยซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติที่หายากในงานศิลปะของผู้ใหญ่ทั่วไปโดยเฉพาะมีศิลปินชั้นนำของโลก
เพียงบางท่านเท่านั้นเช่น ปิกัสโซ่, ชากาล, แคนดินสกี, ฯลฯ ที่มีความเข้าใจ และสามารถทำงานศิลปะที่บริสุทธิ์ คล้ายคลึงกับผลงานศิลปะของเด็กๆ
 
         แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่าในปัจจุบันนี้ศิลปะบริสุทธิ์ของบรรดาเด็กๆกำลังถูกผู้ใหญ่ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
พยายามชักจูงและเกลี้ยกล่อมให้ทำงานศิลปะโดยเอารางวัลมาเป็นตัวล่อ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทน ด้วยการยืมฝีมือของเด็กๆ ส่งผลงานไปประกวดและแข่งขันยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะครูศิลปะบางคนที่ยังขาดความเข้าใจในปรัชญาเกี่ยวกับศิลปะเด็กมักสำคัญผิดคิดว่าวิธีการส่งเสริม
ศิลปะสำหรับเด็ก คือ การประกวดและแข่งขันชิงรางวัลครูศิลปะและผู้ใหญ่ประเภทดังกล่าวนี้ จึงมักจะส่งเสริมกิจกรรมศิลปะโดยมุ่งหวังที่รางวัลแต่เพียงประการเดียวจนกระทั่งเด็กๆ หลายคนถูกชักนำให้กลายเป็นนักล่ารางวัลไปโดยไม่รู้สึกตัว
         พ่อแม่และผู้ปกครองตลอดจนผู้เกี่ยวข้องก็พลอยยินดีไปด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจเพราะคิดว่ารางวัลนั้น คือ ตัวแทนของความสามารถและเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของความสำเร็จที่น้อยคนจะได้รับ บรรดาผู้ใหญ่ที่แสดงความรักเด็กในขณะเดียวกันก็รักรางวัลไปพร้อมๆ กันด้วยนี้ จึงพากันมุ่งส่งเสริมกิจกรรมศิลปะเพื่อต้องการเอารางวัล บางคนพยายามสืบเสาะดูว่าในการประกวดและแข่งขันศิลปะนั้นๆ มีใครเป็นกรรมการบ้าง กรรมการแต่ละคนมีรสนิยมอย่างไรเพื่อว่าที่จะได้กลับมาชี้แนะให้เด็กๆ ทำงานศิลปะให้ถูกใจกรรมการ หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมเช่นนั้นเท่ากับเป็นการทำลายความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่สะอาดบริสุทธิ์ของเด็กๆ ตั้งแต่เยาว์วัย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น